เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 1. สุกกวิสัฏฐิ
แม้ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
สโมธานปริวาส เพื่ออาบัติตัวก่อน เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกาวิสัฏฐิ
ในระหว่าง ปิดไว้ 5 วัน สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุอุทายี สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง
ข้าพเจ้าขอถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”

มานัตตารหมูลายปฏิกัสสนาทิ
ว่าด้วยการชักภิกษุผู้ควรแก่มานัตเข้าหาอาบัติเดิมเป็นต้น
[127] ท่านพระอุทายีนั้นอยู่ปริวาสแล้ว เป็นผู้ควรแก่มานัตต้องอาบัติ 1 ตัว
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ 5 วัน บอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ท่าน
ทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 1 ปักษ์ ฯลฯ
กระผมนั้นอยู่ปริวาสแล้วเป็นผู้ควรแก่มานัต ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ
ในระหว่าง ปิดไว้ 5 วัน กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น สงฆ์จงชักภิกษุอุทายี
เข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้ 5
วัน แล้วให้สโมธานปริวาส เพื่ออาบัติตัวก่อน”
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงชักภิกษุอุทายีนั้นเข้าหาอาบัติเดิม อย่างนี้ คือ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้สโมธานปริวาส เพื่ออาบัติตัวก่อน อย่างนี้คือ ฯลฯ
สงฆ์ให้ ฯลฯ
สโมธานปริวาส เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ปิดไว้
5 วัน สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุอุทายี สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือ
ความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :228 }